Code Mania 1001 ก็พึ่งได้จบลงไปสดๆ เมื่อตะกี้เลยนะฮะ เราก็จะมารีวิวงานนี้มาให้ฟังกัน ถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่บัตรสื่อก็ตาม 555
เข้างาน
เราก็เริ่มตั้งแต่ลงทะเบียนเลยเราก็มาถึงที่ True Digital Park ที่ 101th Sukumvit แลกบัตรเข้างานข้างหน้าเราก็ได้เข็มกลัด และสติ๊กเกอร์ Code Mania มาอันนึง เราก็เอาไปติดที่ iPad เราเรียบร้อย
จากนั้นก็ขึ้นตึกไปต่อเพื่อไปจุดลงทะเบียนที่ 2 หน้างานที่ชั้น 6
อาคารที่เข้าไปจะอยู่ที่ฝั่ง z-axis ของ True Digital Park ซึ่งเป็นอาคารที่ออกแบบมาให้สำหรับกลุ่ม Startup โดยเฉพาะเลย! Inteiror ภายในอาคารสวยงามมากก น่าอยู่จัด
Session ช่วงเช้า
ในตัวงาน Session ช่วงเช้าก็จะเริ่มด้วยการเปิดตัวงานกับ Sponsor หลายๆ Sponsor เราก็เข้ามาช่วงท้ายๆ พอดีก็ได้ที่นั่งหลังๆ ไปตามระเบียบ
จากนั้นก็มาถึง Session แรกของเรานำเสนอโดยพี่ปัญเจ โดยพี่เค้าก็ได้เอา Case study ของเว็บดูผลเลือกตั้ง Workpoint News มาให้ดู โดยก็เล่าอะไรหลายๆ อย่างเยอะมาก ตั้งแต่การได้โจทย์มา การออกแบบ Architecture ของระบบ จนไปถึงปัญหาจริงที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปัญหาของระบบบน Production จนไปถึงปัญหาของ กกต. กับ พรบ. อันสุดงงของเขา
Lunch break
หลังจากจบจาก Session แล้วเราก็จะมีเวลาพักเที่ยงกันชั่วโมงกว่าๆ ทุกคนก็ออกแห่ออกไปข้างนอกเพื่อรับข้าวเที่ยงกัน แต่ปัญหาคือเราออกคนท้ายๆ เลยก็กลายเป็นว่าออกมาจากห้องแล้วก็ได้เจอกับฝูงมวลมหาประชาชนต่อคิวอัดขึ้นลิฟต์เพื่อไปชั้น 7 เยอะมาก
เราเก๋าพอเลยตัวสินใจที่จะกดลิฟต์ลงไปที่ชั้น 1 เพื่อไปซื้อชานมไข่มุกก่อนแล้วค่อยขึ้นไปชั้น 7 ลิฟต์มันก็จะโล่งๆ หน่อย
แต่ขนาดขึ้นมาชั้น 7 แล้วคนยังเยอะอยู่เลย เราก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอไปก่อน แต่พอได้ข้าวเที่ยงมากินแล้วเราถึงกับตะลึง!? ครัวคุณรี่คัมแบ็คสู่ใจของ Developer แล้ว!!!!!!
แต่อาหารที่เราหยิบมาเผ็ดมากก กว่าจะกินเสร็จอร๊ากกก
พอกินเสร็จแล้วเลยเดินสำรวจพื้นที่ด้านในชั้น 7 เพิ่มนิดหน่อย เข้ามาด้านในก็มากอง Bean bag เพียบเลย แต่ที่ไม่ได้ทันสังเกตคือข้างบนเป็นที่นั่งแบบตาข่ายใหญ่ๆ ที่เข้าไปนั่งเป็นกลุ่มได้!?
Environment ที่นี่สุดยอดมากๆ น่าทำงานสุดๆ แล้วตอนนี้ก็กำลังสร้างบันไดกระจกที่จะเชื่อมตึกตั้งแต่ชั้น 5 ถึงชั้น 7 อยู่เลยเดินทางกันทางลิฟต์อย่างเดียวตามที่บอกเอาไว้
Session ช่วงบ่าย
ในช่วงบ่ายจะมี 3 Session เกิดขึ้นพร้อมกันในแต่ละห้อง ทำให้ต้องเราเลือกว่าจะไปฟังใครบ้าง โดยหลังจากจบช่วงบ่ายไปจะมีงานทั้งหมดรวมกัน 8 Sessions และ 2 Workshop และที่เราได้ไปเยือนได้แก่
Shadow Art @ Google I/O 2019
เป็นโปรเจคที่ตกใจอยู่เหมือนกันไม่รู้ว่าทำโดยคนไทย โดยเป็นผลงานจาก Bit Studio
โดยไอเดียของงานนี้ก็คือเราใช้มือของเรามาทำเป็นรูปเงาสัตว์ต่างๆ เหมือนที่เคยเล่นกันตอนเด็ก แต่ต่างกันที่ว่าเราเอา TensorFlow มาทำ ML ไว้ระบุรูปสัตว์ที่แสดงออกมาโดยรายการ Techical นี่ดีจริงๆ หลังจาก ML ระบุชื่อสัตว์ได้แล้วก็จะมีการถ่ายทอดเงาเราแปลงไปเป็นสัตว์ที่สามารถ Interact ได้จริงๆ บนผนัง Projector ใหญ่ๆ
แล้วคราวนี้ Google เห็นว่างานนี้ดีมากๆ เลยเอามาใส่ใน Doodle ประจำวันตรุษจีน และได้เอาไปตั้งบูธ Showcase ที่งาน Google I/O 2019 ด้วยเช่นกัน!?
How to maintain the cost and scale up plan from 1 user to 1 million users
แล้วก็อันนี้ก็จะเป็น Showcase จากบริษัทแรกในไทยที่ทำเกมลงใน Facebook นั่นก็คือเกมป็อกเด้งนั่นเอง
เค้าก็เอา Stack ของเกมนี้มาโชว์ว่ามีการจัดการ Request และ Logging ในแต่ละ Platform ยังไงให้รองรับ User ที่เข้ามาเป็นจำนวนมหาศาลได้!?
หลังจากตอนนี้ก็เป็นช่วงพักกินของว่าง 15 นาที โดยได้อุดหนุนขนมจากครัวคุณรี่เหมือนเดิมนั่นเอง!!!
Lesson learned from years of building development team
ใน Session นี้เราก็มาหาประสบการณ์จากผู้ที่มากประสบการณ์ในประสบการณ์การทำงานของเขาว่าจะต้องทำยังไงให้ Development team เรามี Workflow และการทำงานที่ขยันขันแข็งให้มีประสบการณ์การทำงานที่ดี (เราตั้งใจเล่นคำอันนี้ 555)
ประสบการณ์เฉียด win เมื่อฉันร่วม bid โครงการ TCAS
แล้วเราก็ปิดงานนี้อย่างสวยงาม โดย Session จากพี่โดมว่าพี่เค้าได้เสนอ Tech stack อะไรเข้าไปชิงประมูลบ้าง ซึ่งเราก็แบบฟังไปก็เสียดายไปเนอะว่าทำไมไม่ได้เลือก มีตั้งแต่วิธีการรับ Load request ที่ถล่มเข้ามาแบบถ่าโถม การรักษาความปลอดภัยในระบบที่ฟังแล้วอย่างเทพ และที่ชอบที่สุดก็ตรงตัวระบบ OTP ที่รับประกันการส่งอีเมลล์ภายใน 15 วินาทีนี่แหละ
แล้วแน่นอนพอจบช่วงนี้แล้วก็มาขายของกันต่อกับ Kong Enterprise!!!
ตัวเราก็เหมือนรู้สึกกำลังโดนป้ายยาเลย 5555 แต่ผมจะรอติดตามงาน Kong Meetup ในไทยอยู่นะครับ :3
สรุป
งาน Code Mania นี่ก็เป็นงานดีๆ ที่จัดโดยสมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย โดยสำหรับคนที่กำลังจะเริ่มกระโดดก้าวเข้ามาเป็น Developer แต่ยังไม่รู้ว่าสนใจในทางไหน และ Developer ที่ยังสรรหาความรู้ใหม่อยู่เรื่อยๆ ตลอดเวลา ผมก็แนะนำให้ลองมางานนี้กันดูสักครั้งนะครับ
โดยก็จะติดตามดูอยู่นะครับว่าจะจัดอีกทีเมื่อไหร่ปกติจะจัดปีละ 2 ครั้งรอบต่อไปก็น่าจะช่วงเดือนธันวาคมนี่แหละ ก็ยังจะมาเรื่อยๆ นะครับผม ;)
สำหรับสัปดาห์นี้ก็มีเท่านี้แหละครับ แล้วเจอกันสัปดาห์หน้าครับ และ Happy birthday to me!!!
Editor note
เผื่อทีมงาน Code Mania มาเห็นบทความนี้งานรอบต่อไปอยากจะลองมาเป็น Speaker บ้างนะครับจะมาลองป้ายยา Static hosting บ้าง
