macbook-pro-repair-diary

Log - ประสบการณ์การซ่อม Macbook Pro ที่ Apple Store ครั้งแรก

Published on
2 mins read

จริงๆ ก็ไม่ได้จริงจังอะไรขนาดนั้นหรอก แต่คือนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เอาคอมไปส่งซ่อมแล้วได้ Experience ที่ดีกลับมาเยอะมาก เลยจะเอามาแชร์กันหน่อย

Day 1: มารู้ว่าเครื่องพัง

Riffy at Starbucks

หลังจากใช้งานมันมาอย่างหนักหน่วงมาตลอด 2 เดือนก็ได้พบว่าช่อง Thunerbolt 3 ตรงมุมบนซ้ายได้ดับไปแล้ว คำว่าดับนี่คือชาร์จไฟไม่เข้า Data Transfer ช่องนี้ก็ไม่ได้ ก็เลยรู้ตัวว่าดับแน่ๆ

ตอนแรกก็ว่าจะไป iCare แต่ในอีกใจก็แบบ...ไหนๆ ก็มี Apple Store ในไทยแล้วก็จอง Genius Bar ในวันถัดไปเลยคืนนั้น

หลักจากนัดแล้ว

Day 2: ส่งเครื่องให้พี่เค้าดู

เราจอง Genius Bar ไว้ตอน 15:00 ก็แบบกลัวว่าจะตื่นสายไปไม่ทัน แล้วก็เกือบไปไม่ทันจริงๆ ไปถึง 14:56 เราก็เข้าไปบอกเลขเคสซ่อมให้พี่เค้าไป

Apple Store

จากนั้นพี่เค้าก็ให้ไปนั่งที่โต๊ะรอพี่ที่เค้าจะมาดูเครื่องให้ไปเรื่อยๆ แล้วแน่นอนว่าจะไม่ใช้ริฟฟี่เลยที่จะไม่ไปขิงชาวบ้านเค้า 5555

แหมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

ก็พอพี่เค้ามาก็ให้ดูอาการเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งได้สรุปว่า I/O Board เสีย แล้วก็ให้ดูปัญหาเรื่อง Keyboard ที่รู้สึกว่าน่าจะเสียด้วยตั้งแต่ได้เครื่องมาวันแรก ก็เลยจบได้ว่าเปลี่ยนทั้ง I/O Board และ Top Case ด้านบนใหม่

พอราคามาเท่านั้นแหละ 15000 บาท!!!! โฮลี่ฟักกิ้งชิท!? ค่าซ่อมแพงสุดๆ แต่เราโชคดีมากเพราะทำ Apple Care+ กับเครื่องเอาไว้ตอนซื้อมา ค่าซ่อมทั้งหมดนี้เลยฟรี //รอดตัวไป

ราคาแพงม๊ากกก

แต่ปัญหาก็ยังไม่หมด เพราะว่า Macbook Pro เราที่ซื้อมาด้วย Passive Income เนี่ยเป็นรุ่น Custom เค้าเลยยังไม่มีอะไหล่เราก็เลย ต้องรออะไหล่ไปอีกประมาณ 7 วัน

Day 3 - 8: รออออออ

ช่วงนี้ Macbook Pro เรานี่ก็ไม่ค่อยได้จับบ่อยเลยหลังจากช่วงนี้ เพราะกลัวเดี๋ยวทำอย่างอื่นพังต่อ 5555

แต่ไม่ใช่ว่าเราก็ไม่มีงาน เพราะยังมีอะไรอื่นๆ ให้ทำเยอะมาก

เรื่มตั้งแต่ Arcade เลยคือช่วงนี้กำลังดันตัวเองให้เล่น SDVX ให้เก่งเหมือนชาวบ้านเค้าบ้างซักที เราก็เล่นแบบจริงจังมากกกก

SDVX

แล้วช่วงนี้ก็มี Google I/O อีก แน่นอนว่าเราไม่พลาดแม้แต่ปีเดียว ก็ไปเก็บเกี่ยวความรู้ทางเว็บเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งบางอย่างก็รู้แล้ว แล้วบางอย่างก็ไม่รู้ แถมส่วนใหญ่ที่คือเวอร์วังมากๆ

I/O

Day 9: ส่งเครื่องจร้าาา

My MBP

ช่วงก่อนจะสอบสัปดาห์สุดท้ายก็มีเมลแจ้งเข้ามาว่าเครื่องเราพร้อมส่งซ่อมแล้ว เราก็เอาเครื่องไปส่งที่ Apple Store เลยแล้วเค้าบอกว่าน่าจะซ่อมเสร็จภายใน 4 วัน..

Day 10 - 12: รอออ

ช่วงที่รอนี่ก็ไม่มีอะไรจะทำอยู่แล้ว เราก็เลยหยิบ iPad มาวาดรูปเล่นๆ จะได้เอามาใส่ Profile ตัวเองตอนสอบเสร็จ 5555555555

Adobe Paint

จากนั้นก็มาถลุงเงินกันต่อกับกาชาเกลือๆ ของ SDVX บอกเลยว่าเค็มจัดๆ

Generator Card

แต่เรื่องพีคของช่วงนี้มีอยู่ว่า ที่เค้าบอกว่าจะซ่อมเสร็จใน 4 วันมันคือวันอังคารชะมะ ตอนนั้นวันอาทิตย์ช่วง 20:00 กำลังนั่ง 515 กลับไปที่ศาลายาก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมาเว้ย! จาก Apple Store เค้าโทรมาบอกว่าคอมเราซ่อมเสร็จแล้ว

เชรี่ยยยย ซ่อมเสร็จเร็วจัดนี่แค่ 2 วันเองนะเฮ้ย จะรีบกันไปไหน แต่คือเรากำลังนั่งไปศาลายาไงกลับไปที่ ICONSIAM ไม่ได้ก็อดใจไปเอาเครื่องวันพรุ่งนี้ล่ะกัน

Day 13: Resolved

วันจันทร์หลังจากเราสอบตอนเช้าเสร็จ เราก็รีบไปรับ Macbook Pro เราที่ Apple Store ทันทีเลย ซึ่งตอนเค้าเอาเครื่องมาให้คือเค้า Secure อย่างดี แบบ...ดีเกินไป๊๊ กว่าจะเอาออกมาได้ 555 พร้อมกับบิลค่าซ่อม 0 บาทที่ยาวเป็นหางว่าว

พอได้เครื่องมาก็เอามาตั้งลองใช้งาน ก็รู้สึกเลยว่า Keyboard เรามันรู้สึกกดแปลกๆ ประมาณว่าระดับความแรงของ Feedback มันแรงขึ้น เราก็สงสัยอยู่ว่า Keyboard ที่เราได้มันเป็นตัวใหม่ที่เค้าประกาศมา 2 วันหลังจากนั้นรึเปล่า

แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าเราต้องกดมันหนักขึ้นทำให้ความแม่นมันเปลี่ยนไปหมด เราก็เลยงัด osu! ขึ้นมาเล่นในร้านแม่งเลยจะได้ Calibrate ให้เสร็จๆ ไป

Fixed MBP with osu!

Day 13.6: กลับศาลายา

พอำด้คอมมาแล้วเราก็จะกลับไปที่หอในศาลายาเพื่อเตรียมสอบวันสุดท้ายพรุ่งนี้ใช่มะ เราก็ไปรอรถเมล์สาย 547 ที่ BTS บางหว้าเพื่อที่จะกลับไปศาลายาใช่มะ

81

แต่คราวนี้รอไปเกือบชั่วโมงรถก็ไม่มาซักทีเราเลยช่างแม่ง แล้วออกทัวร์ยาวนั่งรถเมล์จากบางหว้าไปที่ศิริราช จากนั้นก็ต่อจากศิริราชไปที่เซนทรัลปิ่นเกล้า แล้วก็ไปกินข้าว เล่น SDVX จากนั้นก็นั่งรถตู้กลับศาลายา บอกเลยว่าเดินทางครั้งนี้นี่สุดจัด 555

SDVX

สรุป

บอกเลยการซ่อมครั้งนี้นี่สุดจริง นอกจากจะได้ Adventure แบบสุดติ่ง แล้วประสบการณ์ที่ได้กับจากการซ่อมกับ Genius Bar ก็ดีมากๆ หาปัญหาได้ถูกจุด ให้คำแนะนำดี แถมทำงานเร็วมาก 555

วันนี้ก็มาเรื่องเอามาเล่นแค่นี้แหละ ตอนนี้กำลังเตรียมออกแบบ Riffy Blog ใหม่อยู่ก็จะค่อนข้างไม่ว่างเท่าไหร่ แต่ก็เตรียมพบกับ Design ใหม่เร็วๆ นี้นะครับ